ยายับยั้งไทโรซีนไคเนส (Tyrosine kinase inhibitors: TKI)
- โดย ภก.ศิวัสว์ ผุลลาภิวัฒน์
- 1 ตุลาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ:คือยาอะไร? ไทโรซีนไคเนสคืออะไร?
- ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีขนาดรับประทานหรือวิธีใช้ยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสอย่างไร?
- ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายายับยั้งไทโรซีนไคเนสอย่างไร?
- ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยารักษาแบบจำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง ยารักษาตรงเป้า (Targeted Cell Therapy)
- มะเร็ง (Cancer)
- เนื้องอก (Tumor)
- ตับอักเสบ โรคพิษต่อตับ (Toxic hepatitis หรือ Hepatotoxicity)
- นอนไม่หลับ (Sleeplessness)
- สัญลักษณ์โรคมะเร็ง (Symbol of cancer)
บทนำ: คือยาอะไร? ไทโรซีนไคเนสคืออะไร?
ยายับยั้งไทโรซีนไคเนส (Tyrosine kinase inhibitors: ย่อว่า ทีเคไอ/TKI) คือ กลุ่มยายับยั้งการทำงานของเอนไซม์ชื่อ’ไทโรซีนไคเนส’ (เอนไซม์ใช้ในการเจริญแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง) เพื่อลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง,โดยมีตัวยาได้หลายชนิดย่อย, ทางคลินิกจึงนำมาใช้บำบัดรักษาโรคมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งไต ฯลฯ, โดยมีรูปแบบเป็นยารับประทาน
ยารักษาโรคมะเร็งในแบบดั้งเดิม คือ ยาเคมีบำบัด/Chemotherapy เป็นยาที่มีความสามารถในการยับยั้งการเติบโตแบ่งตัวของเซลล์โดยเฉพาะเซลล์ที่แบ่งตัวได้เร็ว เช่น เซลล์มะเร็ง, แต่ยาเคมีบำบัดไม่มีความจำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อเซลล์ปกติกลุ่มอื่นที่มีความสามารถในการแบ่งตัวได้รวดเร็วเช่นกัน เช่น เซลล์ผม เซลล์เนื้อเยื่อเมือกบุช่องปาก และเซลล์เนื้อเยื่อเมือกบุลำไส้ จึงก่อให้เกิดผลข้างเคียงมาก
การศึกษาเรื่องมะเร็งได้ความก้าวหน้าไปมาก เป็นการศึกษาระดับเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต, การส่งสัญญาณการแบ่งตัวของเซลล์, และการแบ่งตัวของเซลล์, พบว่าเอนไซม์ที่ชื่อ ‘ไทโรซีนไคเนส (Tyrosine Kinases)’ มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณภายในเซลล์มะเร็งเพื่อให้เกิดการแบ่งตัว, จึงเกิดการพัฒนายาเพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์นี้เพื่อลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ซึ่งจะช่วยบำบัดและควบคุมมะเร็งได้ในระดับที่มีประสิทธิผล
ทั้งนี้ “กลุ่มยายับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส/ยายับยั้งไทโรซีนไคเนส” แต่ละขนานก็มีความสามารถในการจับตัวกับกลุ่มเซลล์ตามอวัยวะต่างๆในร่างกายได้แตกต่างกัน
ปัจจุบันยายับยั้งไทโรซีนไคเนส จัดเป็นยาควบคุมพิเศษตามพระราชบัญญัติยาของไทย จึงต้องใช้ภายใต้การควบคุมดูแลจากแพทย์เฉพาะทางโรคมะเร็ง
ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
กลุ่มยาออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส/ยายับยั้งไทโรซีนไคเนส มีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้แตกต่างกันไปตามความจำเพาะ หรือตามความสามารถในการจับกับตัวรับ (Receptor) ของยาต่างๆในกลุ่มนี้: เช่น
- มะเร็งปอดขั้น/ระยะรุนแรง: เช่น ยาคริสออททินิบ (Crizotinib),
- มะเร็งปอดชนิดเซลล์ตัวโต ระยะแพร่กระจาย: เช่นยา อะฟาทินิบ (Afatinib) เออร์โลทินิบ (Erlotinib) เจทฟิทอินิบ (Getfitinib)
- มะเร็งไตขั้นรุนแรง: เช่นยา อะซิทินิบ (Axitinib) ซูนิทินิบ (Sunitinib)
- รักษามะเร็งไตระยะแพร่กระจาย: เช่นยา พาซออฟแอนอิบ (Pazopanib) โซราเฟนิบ (Sorafenib)
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว: เช่นยา โบซูทินิบ (Bosutinib) ดาซแอทอินิบ (Dasatinib) อิมาทินิบ (Imatinib) นิโลทินิบ (Nilotinib)
- มะเร็งตับอ่อน: เช่นยา เออร์โลทินิบ (Erlotinib)
- มะเร็งเต้านมระยะรุนแรง: เช่นยา ลาพาทินิบ (Lapatinib)
- เนื้องอก/มะเร็งของ ลำไส้ใหญ่, กระเพาะอาหาร, ลำไส้เล็ก ชนิดที่เกี่ยวโยงกับ เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่เรียกว่า เนื้องอกจีสต์/มะเร็งจีสต์(Gastro intestinal stromal tumor ย่อว่า GIST/จีสต์) เช่นยา เรกออร์แอฟเอนิบ (Regorafenib) อิมาทินิบ(Imatinib)
- มะเร็งตับ เช่น ยาโซราเฟนิบ (Sorafenib)
- มะเร็งต่อมไทรอยด์ เช่น ยาโซราเฟนิบ (Sorafenib)
ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
เอนไซม์ไทโรซีนไคเนส (Tyrosine Kinases) เป็นเอนไซม์ที่มีความสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของสารโปรตีนภายในเซลล์โดยผ่านการส่งสัญญาณในแบบต่างๆ ซึ่งปกติแล้วปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดการแบ่งตัวของเซลล์ คือ มีสัญญาณ หรือมีฮอร์โมนมากระตุ้นตัวรับที่ผิวเซลล์, ตัวรับที่ผิวเซลล์จะส่งสัญญาณไปยังสารภายในเซลล์เพื่อให้เริ่มต้นการสังเคราะห์โปรตีน เพื่อให้เกิดการแบ่งตัวของเซลล์ต่อไป
เซลล์มะเร็ง ซึ่งเป็นเซลล์ที่เกิดจากการแบ่งตัวอย่างผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย ทำให้เกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของเซลล์และไม่อยู่ในการควบคุมของร่างกาย, การยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีน จะทำให้สัญญาณการกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ซึ่งอาจส่งมาจากภายนอกเซลล์ เช่น โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone; ฮอร์โมนการกระตุ้นการเจริญเติบโต) ถูกขัดขวาง เนื่องจากจะไม่เกิดการส่งสัญญาณต่อเข้าไปภายในเซลล์เพื่อเซลล์เกิดการแบ่งตัว จึงทำให้สามารถควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
ยาในกลุ่มยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส/ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสนี้ มีความจำเพาะต่อชนิดของโกรทฮอร์โมนต่อตัวรับ และต่อชนิดของเซลล์มะเร็งที่แตกต่างกันออกไป, ทำให้มีการพัฒนาเป็นหลายตัวยา ซึ่งใช้รักษาชนิดของมะเร็งที่แตกต่างกันไป เช่น มะเร็งปอด มะเร็งไต มะเร็งเต้านม
ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาในกลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส/ยายับยั้งไทโรซีนไคเนส มีรูปแบบจัดจำหน่าย เช่น
- ยาอะฟาทินิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์ยาเม็ด ขนาดความแรง 20, 30 และ 40 มิลลิกรัมต่อเม็ด
- ยาอะซิทินิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์ยาเม็ด ขนาดความแรง 1 และ 5 มิลลิกรัมต่อเม็ด
- ยาคริสออททินอิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์แคปซูลชนิดรับประทาน ขนาดความแรง 200 และ 250 มิลลิกรัมต่อเม็ด
- ยาดาซแอทอินิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์ยาเม็ด ขนาดความแรง 20, 50, 70 และ 100 มิลลิ กรัมต่อเม็ด
- ยาเออร์โลทินิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์ยาเม็ดเคลือบฟิล์ม ขนาดความแรง 25, 100, 150 และ 100 มิลลิกรัมต่อเม็ด
- ยาอิมาทินิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์ยาเม็ด ขนาดความแรง 100 และ 400 มิลลิกรัมต่อเม็ด
- ยาลาพาทินิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์ยาเม็ด ขนาดความแรง 250 มิลลิกรัมต่อเม็ด
- ยานิโลทินิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์แคปซูลชนิดรับประทาน ขนาดความแรง 150 และ 200 มิลลิกรัมต่อเม็ด
- ยาพาซออฟแอนอิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์ยาเม็ด ขนาดความแรง 200 และ 400 มิลลิ กรัมต่อเม็ด
- ยาเรกออร์แอฟเอนิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์ยาเม็ดเคลือบฟิล์ม ขนาดความแรง 40 มิลลิกรัมต่อเม็ด
- ยาโซราเฟนิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์ยาเม็ด ขนาดความแรง 200 และ 400 มิลลิ กรัมต่อเม็ด
- ยาซูนิทินิบ: เป็นรูปแบบเภสัชภัณฑ์แคปซูลชนิดรับประทาน ขนาดความแรง 12.5 มิลลิกรัมต่อเม็ด
ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีขนาดรับประทานหรือวิธีใช้ยาอย่างไร?
ยาในกลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส/ยายับยั้งไทโรซีนไคเนส มีขนาดการใช้ยาขึ้นกับ ข้อบ่งใช้, อาการ, การดำเนินของโรค/ธรรมชาติของโรค, สมรรถภาพของไตและตับ, ซึ่งจะแตกต่างเป็นกรณีไป, ดังนั้นการเลือกใช้ชนิดยาและขนาดยาจึงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแพทย์ผู้ทำการรักษา ในการกำหนดชนิด/ขนาดยาที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยเฉพาะรายไป
ยาในกลุ่มนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นยารับประทานในขณะท้องว่าง คือ รับประทานก่อนอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง หรือหลังรับประทานอาหารประมาณ 2 ชั่วโมง, ผู้ป่วยควรปรึกษาเภสัชกรถึงวิธีการรับประทานยาที่ถูกต้องขณะรับยานี้
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยายับยั้งไทโรซีนไคเนส ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและ เภสัชกร เช่น
- ประวัติการแพ้ยา แพ้อาหาร และแพ้สารเคมีทุกชนิด
- ประวัติการใช้ยา ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่าย และยาที่ซื้อทานเอง วิตามิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรทุกชนิด
- ประวัติโรค ทั้งโรคในอดีต และโรคที่เป็นอยู่โดยเฉพาะ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต และโรคตับ
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากผู้ป่วย กำลังตั้งครรภ์ วางแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังอยู่ใน ช่วงระหว่างการให้นมบุตร
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว หากลืมรับประทานยายับยั้งไทโรซีนไคเนส ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้, แต่หากใกล้เวลาทานยามื้อถัดไปแล้ว (ในระยะเวลา 12 ชั่วโมงก่อนมื้อยาถัดไป) ให้ข้ามยามือที่ลืมไป, และให้ทานมื้อยาถัดไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยควรสอบถามกรณีเช่นนี้ล่วงหน้าจากเภสัชกรทุกครั้งเมื่อรับยานี้ เนื่องจากยานี้แต่ละชนิด อาจมีวิธีรับประทานพิเศษ หรือแตกต่างจากคำแนะนำข้างต้น
ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
กลุ่มยาออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส/ยายับยั้งไทโรซีนไคเนส อาจก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง): เช่น
- ท้องเสีย
- อาจพบผิวหนังมีผื่นขึ้น เนื่องจากผิวหนังอาจไวต่อแสงอาทิตย์/แสงแดดมากขึ้น การทาครีมกันแดด หรือผลิตภัณฑ์กันแดดก่อนออกจากที่ร่มอาจช่วยได้
- นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยอาจมี
- แผลในปาก
- เกิดการติดเชื้อที่เล็บหรือเล็บเปลี่ยนสี
- ผู้ป่วยบางส่วนอาจรู้สึกไม่อยากอาหาร และน้ำหนักลด
- อ่อนเพลีย
- ผมร่วง
- มีนงง
- ปวดแปลบๆเหมือนถูกไฟช็อต (ปวดที่เส้นประสาท) ที่แขน ขา มือ เท้า
- นอนไม่หลับ
- มีอาการร้อนวูบวาบ
*อนึ่ง: หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือรุนแรงขึ้น หรือ รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบ/ไปโรงพยาบาลก่อนนัด
*กลุ่มยาออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส อาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง เช่น ไออย่างหนักร่วมกับหายใจไม่สะดวก/หายใจลำบาก และตัวร้อนโดยอาจมีไข้หรือไม่มีไข้ก็ได้ มีการมองเห็นที่เปลี่ยนไป หรือรู้สึกว่าตาไวต่อแสงอย่างผิดปกติ/ตาไม่สู้แสง เกิดผื่นหรือผิวหนัง ลอก (มักเกิดที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า) มีอาการเหมือนดีซ่าน (ตัวเหลืองและตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง) มีอาการบวม ปวด และลอกของผิวหนังบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ปวดท้อง/ปวดเกร็งอย่างรุนแรง อาจมีอาการเหมือนติดเชื้อกล่าวคือ มีไข้ ไม่สบายตัว เจ็บคอ หรือมีสัญญาณเหมือนมีเลือดออก เช่น เกิดจ้ำห้อเลือด ถ่ายอุจจาระมีสีดำเข้มและเหนียว หรืออาเจียนมีเลือดปนหรือมีสีน้ำตาลกาแฟ *หากเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นให้รีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลโดยทันที/ฉุกเฉิน
*หากรับประทานยานี้แล้ว เกิดอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นคันขึ้นตามตัว ใบหน้า ริมฝีปาก หรือเปลือก ตา/หนังตาบวม หายใจไม่สะดวก/หายใจลำบาก ให้พบแพทย์/ไปโรงพยาบาลโดยทันที/ฉุกเฉิน
*กลุ่มยาออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส อาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ หากเกิดอาการใดๆหรือรู้สึกผิดไปจากปกติภายหลังการเริ่มยานี้ ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบ/ไปโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉินขึ้นกับความรุนแรงของอาการ, อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยควรตระหนักว่าการที่แพทย์สั่งใช้ยานี้ เนื่องจากแพทย์พิจารณาแล้วเห็นว่ายานี้จะมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยมากกว่าโทษหรือการได้รับผลข้างเคียงจากยา ผู้ป่วยที่ได้รับยานี้ส่วนมากมีพบว่าเกิดอาการไม่พึงประสงค์ชนิดรุนแรงได้ ผู้ป่วยจึงควรเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และรีบแจ้งให้แพทย์ผู้ทำการรักษาทราบ/ไปโรงพยาบาลก่อนนัดหากเกิดอาการรุนแรงดัง ที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น
มีข้อควรระวังการใช้ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยายับยั้งไทโรซีนไคเนส: เช่น
- ไม่ใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่แพ้ยา หรือแพ้สารเคมีที่เป็นส่วนประกอบของยานี้
- ไม่ควรใช้ยานี้กับ หญิงตั้งครรภ์ หรือกำลังอยู่ในช่วงระหว่างการให้นมบุตร
- ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการรับวัคซีนโดยเฉพาะวัคซีนเชื้อเป็น/เชื้อยังมีชีวิต (Live Vaccines) ทั้งในขณะกำลังใช้ยานี้ และภายหลังหยุดการใช้ยาไปแล้วอย่างน้อยอีก 6 เดือน
- แพทย์อาจพิจารณาตรวจปริมาณเม็ดเลือดซีบีซี/CBC, Complete Blood Count) เป็นระยะเพื่อประเมินผลข้างเคียงจากการใช้ยานี้
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยายับยั้งไทโรซีนไคเนส) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิดควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
กลุ่มยาออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส/ยายับยั้งไทโรซีนไคเนส มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาบางชนิด ซึ่งโดยทั่วไปยาในกลุ่มนี้อาจทำให้ระดับภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย หรือระดับเม็ดเลือดขาวในเลือดลดลง *ผู้ป่วยควรงดการรับวัคซีนโดยเฉพาะชนิดวัคซีนเชื้อเป็นเพราะอาจติดโรคจากวัคซีนได้
นอกจากนี้ ยาอื่นบางชนิดที่ออกฤทธิ์ต่อตับ เช่น ยาเลฟลูโนไมด์ (Leflunomide) ซึ่งหากใช้ร่วมกับยาในกลุ่มยายับยั้งไทโรซีนไคเนส อาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดพิษต่อตับ/ตับอักเสบรุนแรงได้
ระหว่างการใช้ยาในกลุ่มยายับยั้งไทโรซีนไคเนส ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่า ผู้ป่วยกำลังใช้ยาอื่นอะไรอยู่บ้าง ทั้งขณะรับยานี้ หรือขณะรับยาอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้
ควรเก็บรักษายายับยั้งไทโรซีนไคเนสอย่างไร?
ควรเก็บรักษายายับยั้งไทโรซีนไคเนส: เช่น
- เก็บยาในภาชนะดั้งเดิมของผู้ผลิต, ปิดฝาภาชนะให้แน่น
- เก็บให้พ้นมือเด็กและ สัตว์เลี้ยง
- หลีกเลี่ยงการเก็บยาในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น บริเวณใกล้ห้องน้ำ หรือในตู้เย็น, และไม่ควรนำสารดูดความชื้นที่ผู้ผลิตใส่ไว้ในภาชนะของผลิตภัณฑ์ออกจากภาชนะหากผู้ผลิตได้บรรจุไว้
- เก็บภาชนะบรรจุยานี้ในอุณหภูมิห้อง
ยายับยั้งไทโรซีนไคเนสมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาในกลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส/ยายับยั้งไทโรซีนไคเนส มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิตหรือจัดจำหน่าย เช่น
ชื่อสามัญทางยา | ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต/จัดจำหน่าย |
---|---|---|
ยาอะฟาทินิบ (Afatinib) | จีโอทริฟ (Giotif) | บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด |
ยาอะซิทินิบ (Axitinib) | อินไลทา (Inlyta) | บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด |
ยาคริสออททินอิบ (Crizotinib) | ซาลโคริ (Xalkori) | บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด |
ยาดาซแอทอินิบ (Dasatinib) | สไปริเซล (Sprycel) | บริษัท บริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด |
ยาเออร์โลทินิบ (Erlotinib) | ทาร์ซีว่า (Tarcva) | บริษัท โรชไทยแลนด์ จำกัด |
ยาอิมาทินิบ (Imatinib) | กีเวก (Glivec) | บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด |
ยาลาพาทินิบ (Lapatinib) | ไทเคิร์บ (Tykerb) | บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด |
ยานิโลทินิบ (Nilotinib) | ทาซิกนา (Tasigna) | บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด |
ยาพาซออฟแอนอิบ (Pazopanib) | โวเทรียนท์ (Votrient) | บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด |
ยาเรกออร์แอฟเอนิบ (Regorafenib) | สตีวาร์กา (Stivarga) | บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด |
ยาโซราเฟนิบ (Sorafenib) | นีซาวาร์ (Nexavar) | บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด |
ยาซูนิทินิบ (Sunitinib) | ซูเท็นท์ (Sutent) | บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด |
บรรณานุกรม
- American Pharmacists Association. Drug Information Handbook with International Trade Names. 23;:2014 Arora A1, Scholar EM. Role of tyrosine kinase inhibitors in cancer therapy. J Pharmacol Exp Ther. 2005 Dec;315(3):971-9. Epub 2005 Jul
- Yaish P, Gazit A, Gilon C, Levitzki A. (1988). "Blocking of EGF-dependent cell proliferation by EGF receptor kinase inhibitors.". Science 242 (4880): 933–935
- Hartmann JT1, Haap M, Kopp HG, Lipp HP. Tyrosine kinase inhibitors - a review on pharmacology, metabolism and side effects. Curr Drug Metab. 2009 Jun;10(5):470-81
- https://en.wikipedia.org/wiki/Tyrosine_kinase_inhibitor [2022,Oct1]
- https://www.cancerresearchuk.org/about-cancer/cancer-in-general/treatment/targeted-cancer-drugs/types/cancer-growth-blockers#tki [2022,Oct1]
- http://pertento.fda.moph.go.th/FDA_SEARCH_DRUG/SEARCH_DRUG/pop-up_drug.aspx?Newcode_U=U1DR1C1012631511011C&pvncd=10&drgtpcd=1&rgttpcd=1C&rgtno=6315110 [2022,Oct1]